วันจันทร์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ยุคของการพัฒนาเว็บไซต์

ยุคของการพัฒนาเว็บไซต์
เทคโนโลยีสำหรับการพัฒนาเว็บนั้น อาจแบ่งออกได้เป็น 3 ยุคด้วยกัน นั่นก็คือ
ยุคที่ 1 Static Web 
เป็นการเขียนเว็บไซต์แบบธรรมดา ใช้บราวเซอร์เรียกเว็บเพจที่สร้างด้วยภาษา HTML ล้วนๆ หรืออย่างมากก็มีสคริปต์ทางฝั่งไคลเอนต์ (Client-side Script) อย่าง JavaScript, VBScript หรือใช้ภาษา Java Applet ซึ่ง Static web ส่วนมากนิยมในหมู่นักเรียนนักศึกษาในการสร้างโฮมเพจส่วนตัว หลังจากทำเสร็จจะทำการอัปโหลดข้อมูลไปยังเว็บไซต์ที่ให้บริการพื้นที่เก็บเว็บฟรี เช่น http://www.geocities.com/, http://www.thai.net/
ยุคที่ 2 Dynamic Web 
พัฒนาต่อมาจากยุคที่ 1 มีการใช้สคริปต์ทางฝั่งเซิร์ฟเวอร์ (Server-side Script) มาช่วยในการเพิ่มความสามารถของเอกสาร HTML ในการติดต่อกับองค์ประกอบอื่นๆ ทางฝั่งเซิร์ฟเวอร์ อย่างฐานข้อมูล หรืออาศัยพลังในการประมวลผลของเว็บเซิร์ฟเวอร์เพื่อทำงานบางอย่าง เช่น Webboard, Guestbook, Chat Room, Webmail เทคโนโลยีในการพัฒนาเว็บแบบไดนามิกในช่วงแรกคือ CGI (Common Gateway Interface) ภาษาที่ใช้เขียนสคริปต์นี้เช่น C, Perl เป็นต้น ต่อมาได้มีเทคโนโลยีต่างๆ เกิดขึ้นมาอีกมากมาย ซึ่งทำงานในฝั่งของเซิร์ฟเวอร์เช่นเดียวกับ CGI นั่นก็คือ ASP (Active Server Pager) ของไมโครซอฟต์, JSP (Java Server Page) ที่ใช้ภาษา Java ในการพัฒนา และ PHP (PHP Hypertext Preprocessor) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน
ยุคที่ 3 Web Service
เป็นรูปแบบการบริการยุคใหม่ในวงการเว็บ ตัวอย่าง Web Service เช่น Microsoft Passport ที่ให้บริการตรวจสอบความเป็นตัวตนจริง (Authentication) ผ่านเว็บ ภาษาที่ใช้เป็นตัวกลางในการพัฒนา Web Service คือ XML (eXtensible Markup Language) IBM ได้นิยามความหมายอย่างเป็นทางการของ Web Services ว่า Web Services คือ Web Application ยุคใหม่ที่ประกอบด้วยส่วนย่อยๆ ที่มีความสมบูรณ์ในตัวเอง สามารถติดตั้ง ค้นหา เริ่มทำงานได้โดยผ่านหน้าเว็บ Web Services สามารถทำอะไรก็ได้ตั้งแต่งานง่ายๆ เช่น ดึงข้อมูล จนถึงกระบวนการทางธุรกิจที่ซับซ้อน เมื่อ Web Services ตัวใดตัวหนึ่งเริ่มทำงาน Web Services ตัวอื่นก็สามารถรับรู้และเริ่มทำงานได้อีกด้วย
แสดงการเปรียบเทียบระหว่าง Static และ Dynamic Web Site
ลักษณะภาษาสคริปต์ ที่ใช้การพัฒนาโปรแกรมบนเว็บ
สามารถแบ่งได้ 2 แบบด้วยกันคือ 
- Client-Side Script เป็นลักษณะของภาษาที่ทำงานอยู่บนเครื่องผู้ใช้ เช่น HTML, JavaScript, VBScript, JScript
- Server-Side Script เป็นลักษณะของภาษาที่ทำงานบนเครื่องเซิร์ฟเวอร์ เช่น CGI, ASP, ASP.NET, PHP, JSP, PSP (Python Server Page)
โปรแกรมฐานข้อมูลที่นิยมใช้บนเว็บ 
- MS Access
- MS SQL Server
- MySQL
- PostgreSQL
- mSQL
เครื่องมือในการสร้าง & ตกแต่ง ภาพกราฟิกสำหรับเว็บ
- Adobe Photoshop + Image Ready
- Adobe Illustrator
- Macromedia Firework MX
- Macromedia Flash MX
- Corel Draw
เครื่องมือในการสร้างภาพเคลื่อนไหวสำหรับเว็บ 
- Macromedia Flash
- Ulead GIF Animator
- SWiSH, SWiSH Max
- Xara 3D
- Java Applet
โปรแกรมเอดิเตอร์ที่ใช้ในการพัฒนาเว็บ
- Edit Plus < PHP, JAVA, HTML
- ASPedit < ASP
- Web Matrix < ASP.NET, C#
- Visual Studito.NET < VB.NET, ASP.NET, C#
- Netbeans < JAVA, JSP
เทคโนโลยีในการพัฒนา Web Application
เทคโนโลยี / ภาษาที่ใช้พัฒนา
:: CGI (Common Gateway Interface) / C, C++, Shell Script, Perl, Python, Tcl, Ruby
:: ASP (Active Server Page) / VBScript, JScript
:: PHP (PHP Hypertext Preprocessor) / PHP Script
:: JSP (Java Server Page) / JAVA
:: ASP.NET (Active Server Page.NET) / VB.NET, C#, J#
แนวทางในการพัฒนาเว็บไซต์ 
ในปัจจุบันเครื่องมือที่ใช้ในการพัฒนาเว็บจะมีอยู่ 2 ลักษณะคือ
1. เครื่องมือประเภท Text Editor เครื่องมือประเภทนี้ผู้สร้างเว็บเพจจะต้องรู้ไวยากรณ์ของภาษา ที่จะนำมาพัฒนา ตัวอย่างเครื่องมือประเภทนี้เช่น
- ระบบ Windows -> Notepad, Notepad ++, WordPad, EditPlus, NetObject ScriptBuilder, CuteHTML, HotDog, HomeSite
- ระบบ Unix, Linux -> Pico, Vi , Emace, ee
2. เครื่องมือช่วยสร้างเว็บแบบสำเร็จรูป (Web Builder) เครื่องมือประเภทนี้ผู้สร้างเว็บไม่จำเป็นต้องรู้แท็ก HTML ก็สามารถพัฒนาเว็บเพจ เป็นของตัวเองได้ ด้วยเวลาอันรวดเร็ว ตัวอย่างเครื่องมือประเภทนี้
- Macromedia Dreamweaver (นิยมมากสุด)
- Microsoft FrontPage
- Adobe Golive
- NetObject Fution
- Namo Web Editor
3. ใช้ระบบ CMS (Content Management System) ช่วยในการสร้างเว็บ ตัวอย่างระบบ CMS เช่น PHP-Nuke, PostNuke, Mambo, Joomla!, XOOPS, Modx, Plone, WordPress, Drupal, ฯลฯ (ในคู่มือเล่มนี้จะแนะนำการสร้างเว็บด้วยวิธีนี้)
อาชีพในสาย Web Site
อาชีพในสายเว็บไซต์สามารถแบ่งได้หลายสายด้วยกัน พอสรุปอาชีพที่เป็นความต้องการได้ดังนี้
1. Web Programmer หรือ Web Developer เป็นนักเขียนโปรแกรมบนเว็บมีภาษาให้เลือกใช้ดังนี้
- PHP + MySQL/PostgreSQL
- ASP + MS Access/MS SQL Server
- ASP.NET+ MS SQL Server
- JSP + MySQL/Oracle
2. Web Designer เป็นนักออกแบบหน้าหน้าเว็บ (User Interface) กล่าวคือเป็นคนที่ทำหน้าที่ตกแต่งให้เว็บมีหน้าตาสวยงามนั่นเอง มีทูลให้เลือกใช้งานดังนี้
- Adobe Photoshop + Image Ready
- Macromedia Firework
- Macromedia Flash
- Adobe IIIastrator
- SWiSH
3. Web Marketing เป็นผู้ที่ทำให้เว็บเป็นที่รู้จัก และทำให้สามารถสร้างรายได้จากตัวเว็บได้
4. Web Content เป็นผู้ที่ทำหน้าที่รวบรวมเนื้อหา เขียนเนื้อหาเพื่อใส่ในเว็บไซต์
5. Web Master เป็นผู้ควบคุมดูแลภาพรวมของเว็บไซต์
6. Web Teacher / Trainner / Instructor เป็นผู้สอนหลักสูตรเกี่ยวกับการออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์

1 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ20 เมษายน 2565 เวลา 02:26

    Sakarin: ยุคของการพัฒนาเว็บไซต์ >>>>> Download Now

    >>>>> Download Full

    Sakarin: ยุคของการพัฒนาเว็บไซต์ >>>>> Download LINK

    >>>>> Download Now

    Sakarin: ยุคของการพัฒนาเว็บไซต์ >>>>> Download Full

    >>>>> Download LINK nk

    ตอบลบ